สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปชมโรงแรมเปิดใหม่ที่เชียงใหม่กัน
โรงแรมนี้ชื่อว่า The Core (เดอะ คอร์) เป็นโรงแรมขนาดเล็กแค่ 50 กว่าห้อง
ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากๆนั่นคืออยู่ริมถนนห้วยแก้วตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เลยครับ
โรงแรมนี้เพิ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมานี้เอง
เรียกว่าใหม่กิ๊กเลยทีเดียว ไปชมกันดีกว่าว่าโรงแรมนี้มีดียังไงครับ
ตามที่ได้บอกไว้ตอนต้นครับว่าโรงแรมอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดีมากนั่นคือด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ทั้งของกิน แหล่งช็อปปิ้ง สถานที่ท่องเที่ยวเดินทางสะดวกมากๆครับ
ถ้าขับรถมาเองง่ายๆก็คือขับไปทางที่จะขึ้นดอยสุเทพครับ เราจะเจอมช.อยู่ทางด้านซ้าย
ด้านขวาจะเป็นตลาดที่คนเชียงใหม่เรียกกาดนั่นล่ะ โรงแรมจะอยู่ก่อนถึงประตูทางเข้ามช.นิดนึงครับ
ให้กลับรถหน้าประตูมช.เลยวนกลับมานิดเดียวก็เจอแล้วครับ
จุดเด่นที่มองเห็นง่ายๆเลยคืออาคารรูปทรงแปลกตาแบบที่เห็น เราสามารถจอดรถที่ลานจอดด้านหน้าของโรงแรมเลยครับ ที่จอดอาจจะมีจำกัดหน่อยแต่ก็จะมีรปภ.คอยดูแลให้ตลอด 24 ชม.ฮะ
ด้านล่างก็จะเป็นล็อบบี้แบบ Open Air ครับ เดินเข้าไปเช็คอินกันเลย
โรงแรมออกแบบได้เก๋ๆดีครับ มีมุมมุ้งมิ้งให้ได้นั่งชิลหรืออยากคว้ากล้องมาถ่ายรูปเก็บภาพงามๆของตัวเองก็ได้หลายมุมเลยล่ะ
ด้านข้างของล็อบบี้ก็จะเป็นสระว่ายน้ำขนาดไม่ใหญ่มากครับ แต่ก็พอจะชิลเล่นน้ำกะเพื่อนๆได้นะ
เพียงแต่ช่วงที่ผมไปมันเป็นช่วงที่เชียงใหม่หนาวพอสมควรเลยไม่เห็นใครมาเล่นน้ำเหมือนกัน
ถึงล็อบบี้จะไม่ใหญ่มากแต่การตกแต่งก็น่ารักดีครับ
ที่ล็อบบี้นี้มีอินเตอร์เน็ตให้เล่นฟรีด้วยนะครับ มีคอมฯอยู่ 2 เครื่อง ส่วนในห้องพักก็มี Wi-fi ให้ใช้ฟรีด้วยเช่นกัน
มุมน่ารักๆเพียบบอกเลย
สระว่ายน้ำเปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง 3 ทุ่มนะครับเพื่อไม่ให้รบกวนต่อลูกค้าท่านอื่นๆ
ทีนี้มาดูส่วนของห้องพักบ้างดีกว่า เท่าที่ขอถ่ายภาพมาห้องพักก็จะมีอยู่ประมาณ 4 แบบนะครับ
แบบแรกเป็นแบบที่ผมพักคือห้องเตียงเดี่ยว ห้องพักมีขนาดประมาณ 20 ตร.ม.
ก็ถือว่าไม่เล็กไม่ใหญ่ กำลังสบายๆ เตียงขนาดพิเศษครับน่าจะ 7-8 ฟุตได้
เวลาลงไปนอนนี่ฟีลเดียวกับโรงแรมที่ชอบมากโรงแรมนึงที่ภูเก็ตเลยเรียกว่าเตียงนุ่มกระชากวิญญาณโดยแท้
หมอนมีให้หลายใบเลยครับทั้งหมอนแข็งหมอนนิ่มมีให้เลือก
ปลายเตียงก็มี Day Bed ยาวๆไว้ให้นั่งเล่นตัวนึงมีโต๊ะสไลด์เก๋ๆไว้ให้นั่งทำงานได้ด้วย
ส่วนของสิ่อำนวยความสะดวกก็ครบครันครับ ทั้งทีวีตรงผนังปลายเตียง ตู้เย็น ฯลฯ
ห้องดูตกแต่งเรียบๆแต่ก็ดูมีสไตล์ครับ โทนสีของห้องจะเป็นขาว-น้ำเงินเป็นหลัก
ห้องน้ำข๊าวขาว สะดุดตามาก ไม่มีอ่างให้แช่น้ำนะครับ
แต่ชักโครกมีสายชำระให้ (อันนี้ดีงามชมทุกโรงแรมทีมี ฮ่าๆๆ)
สบู่-แชมพูเป็นแบบกดจากกล่องนะครับ แต่ชอบกลิ่นมากเป็นกลิ่นตะไคร้หอมๆ
ทีนี้มาชมห้องพักแบบที่สองเป็นห้องแบบเตียงคู่ครับ
ขนาดห้อง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกมีให้ครบเหมือนกับห้องแบบแรกทุกอย่าง
ต่างกันแค่เพียงเตียงเท่านั้นเองครับ
ห้องแบบที่สาม อันนี้เหมาะหรับหรับเพื่อนฝูงที่มากันเป็นเลขคี่ เป็นห้องแบบ Triple ครับ
นอนกันได้ 3 คนคือจะมีเตียงใหญ่ 1 เตียงและเตียงเล็กอีก 1 เตียง
ขนาดห้องจะใหญ่กว่าสองแบบแรกหน่อยแต่พวกสิ่งอำนวยความสะดวกก็เหมือนๆกัน
แต่ห้องแบบนี้มีไม่กี่ห้องนะครับอาจจะจองยากหน่อย
ทีนี้มาชมห้องแบบสุดท้าย ห้องแบบนี้เหมาะสำหรับการมาพักเป็นครอบครัว
เพราะว่ามันคือห้องแบบ Family ครับ
ห้องแบบนี้นึกภาพง่ายๆคือการเอาห้องเตียงเดี่ยวและเตียงคู่มาทำเป็นห้อง connecting กัน
คือสามารถเปิดหากันได้จากในห้อง แต่ที่พิเศษกว่าอีกอย่างคือ
ทั้งสองห้องนี้จะมีห้องนั่งเล่นอีกห้องอยู่ตรงกลาง ง่ายๆก็คือจะมีขนาดเท่ากับ 3 ห้องของห้องปกติครับ
ดูตามรูปเลยเผิ่อนึกไม่ออก ..
ชมห้องกันไปหมดแล้ว ผมลืมบอกข้อมูลสำคัญไปอีกอย่างฮะ
โรงแรมนี้เป็นเหมือนโรงแรมที่เอาตึกแถวมาปรับปรุงใหม่ โดยการเปลี่ยนภายในใหม่ทั้งหมด
เดินเข้าไปนี่ไม่รู้เลยครับว่าเคยเป็นตึกแถวมาก่อน
อาคารจะมีทั้งหมด 5 ชั้นครับ ชั้น 1 จะเป็นล็อบบี้
ชั้น 2-4 จะเป็นส่วนของห้องพัก และชั้น 5 ชั้นบนสุดจะเป็นห้องอาหารครับ
เรามาดูชั้น 5 กันดีกว่า ..
กดลิฟท์ขึ้นมาแอบบว๊าวกับวิวนิดนึง เพราะว่ามันสามารถมองเห็นดอยสุเทพได้แบบนี้เลยยย
ห้องอาหารเป็นแบบ Open Air นะครับ อากาศดีเลยล่ะสำหรับหน้าหนาวแบบนี้
โต๊ะอาหารก็จะมีหลายโซนให้เลือกนั่งครับ เลือกเอาตามชอบเลย
บนนี้จะให้บริการอาหารเช้าซึ่งจะเสิร์ฟตั้งแต่ 6 โมงครึ่งจนถึง 10 โมงครึ่งครับ
มุมนี้น่าจัดปาร์ตี้กะเพื่อนๆมากกก
บรรยากาศตอนค่ำๆครับ
ด้านหน้าโรงแรมครับ อีกอย่างที่สาวๆน่าจะชอบคือข้างโรงแรมมันคือกาดมาลิน กาดหน้ามอเลยครับ
มันคือแหล่งช็อปปิ้งของคนพื้นที่สาวๆคงชอบวัดจากสาวที่ไปกะผมด้วยเป็นต้น ฮ่าๆๆ
ส่วนคุณผู้ชายไม่ต้องน้อยใจไป .. ด้านหลังกาดก็มีพวกร้านอาหารสารพัดรูปแบบไว้คอยบริการ
จะกินจะดื่มเลือกเอาตามใจชอบเลยฮะ วินๆกันทั้งคู่ อิอิ
ตัดภาพมาที่เช้าของวันต่อมา อากาศเชียงใหม่ช่วงที่ไปเช้าๆนี่ 15-16 องศาเองชิลมากกก
ขึ้นไปทานอาหารเช้ากันดีกว่า ช่วงนี้ทาโรงแรมบอกว่าอาหารเช้ายังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางนะครับ
ตอนนี้จะยังเสิร์ฟอาหารเช้าแบบเป็นจานๆก่อน แต่อีกซักพักน่าจะมีไลน์อาหารพิ่มมากขึ้น
ตอนนี้จะมีพนักงานเอากระดาษมาให้เราติ๊กเลือกอาหารที่อยากทาน
ก็จะมีพวก ABF ข้าวผัด ข้าวต้ม สลัด ผลไม้อะไรแบบนี้แต่ก็สามารถขอเพิ่มได้จนกว่าจะทานอื่มนะครับ
ไม่ได้จำกัดว่าคนนึงทานได้แค่จานเดียวอะไรแบบนั้น
เสียดายว่ามีเวลาชิลอยู่ได้แค่คืนเดียวครับเพราะว่าเราต้องออกเดินทางกันต่อไปดอยอ่างขาง
ก่อนกลับเลยเดินถ่ายรูปมุ้งมิ้งกันหน่อย บอกแล้วว่าที่นี่เค้ามีมุมให้ถ่ายรูปหลายมุมเลย
บทสรุป ..
โรงแรม The Core เชียงใหม่เป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิดใหม่ วันที่เขียนนี่ยังเปิดได้ไม่เต็มเดือนดีเลยครับ
ผมไปพักมาตอนที่โรงแรมเปิดได้ซัก 10 วันเลยดูยังมีอะไรหลายๆอย่างยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางนัก
ถ้าให้พูดถึงข้อดี .. โรงแรมนี้ทำเลดีมากครับ อยู่ใกล้ที่ช็อป ใกล้ที่กินที่เที่ยว
จะไปดูแพนด้า จะไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ เที่ยวพระตำหนักภูพิงค์ หรือดอยปุย
แม้กระทั่งตอนนี้ที่ดอกนางพญาเสือโคร่งกำลังบานอยู่บนบ้านม้งขุนช่างเคี่ยน
(เหมือนทางโรงแรมจะมีโปรเกี่ยวกะการขึ้นไปเที่ยวขุนช่างเคี่ยนด้วย)
นอนที่นี่ไปได้ทุกที่ที่บอกใกล้หมดเลย อ้อ..แม้แต่เดินห้างเมญ่า หรือเที่ยวแถวถนนนิมมานต์ก็ไม่ไกลนะ
ถ้ามาเองแบบไม่ได้มีรถส่วนตัวมาทางโรงแรมก็มีรถจักรยานยนต์ให้เช่าขี่เที่ยวด้วยนะครับ
ราคาก็ 200-300 ต่อวันแล้วแต่รถรุ่นไหน เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ
ด้านล่างตรงล็อบบี้มีน้ำขาย หรือถ้าอยากทานอะไรมากกว่านั้นเดินข้ามถนนไปก็มีเซเว่น
ร่วมถึงอีกไม่นานด้านหน้าโรงแรมจะมีกาแฟอเมซอนมาเปิดบริการนะครับ
ห้องพักเนื่องจากยังเป็นโรงแรมเปิดใหม่ก็เลยยังดูสะอาดสะอ้านดีอันนี้คงยังวัดอะไรไม่ได้มาก
เตียงนอนนุ่มมากดูดวิญญาณไม่อยากลุกอันนี้ชมเลยจริงๆ
อ้ออีกอย่างที่ไม่ได้แนะนำและไม่ได้ใช้บริการคือฟิตเนสครับ
แต่ฟิตเนสที่นี่ใช้บริการของฟิตเนสใกล้ๆโรงแรมนะครับ เดินไปใช้บริการได้แต่ต้องรับบัตรใช้บริการที่แผนกต้อนรับก่อน
ถ้าคิดถึงข้อติ .. อันดับแรกคงเป็นที่จอดรถที่มีน้อยไปนิดถ้ามาพักเสาร์-อาทิตย์คงแย่งที่จอดกันหน่อย
(โรงแรมมีบัตรจอดแจกนะครับแต่ต้องมัดจำค่าบัตร 50 บาทคืนบัตรเมื่อไหร่ก็ได้เงินคืน) แต่ก็มีรปภ.คอยดูแลให้ตลอดนะ
สระว่ายน้ำ .. อันนี้ไม่ค่อยชอบเพราะมันค่อนข้างไม่เป็นส่วนตัวเพราะอยู่ข้างล็อบบี้เลย ถ้าใครอยากเล่นก็ทำใจหน่อยแล้วกันจ้า
และเนื่องจากเป็นโรงแรมสไตล์ประมาณซิตี้โฮเทล เราอาจจะคาดหวังให้พนักงานบริการแบบฟูลเซอร์วิสเหมือนโรงแรม 4-5 ดาวไม่ได้
อย่างกระเป๋าผมก็ยกเองเดินขึ้นห้องเอง เช็คเอ้าท์เอง ถ้าไม่ซีเรียสตรงนี้ก็โอเคนะ ผมเองก็ไม่ได้ซีเรียสเลยไม่รู้จะเรียกว่ามันเป็นข้อเสียดีมั้ย
จบแล้ววว .. ที่จริงโรงแรมนี้แนะนำน๊า ไปเชียงใหม่หาที่พักราคาไม่แรงมากราคาห้องเริ่มต้น 2 พันนิดๆกับห้องใหม่ๆเตียงนุ่มๆและทำเลทองแบบนี้ วันนี้ลาไปก่อนจ้า
ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ