สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปชมรีสอร์ทที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงในช่วงนี้กัน
TreeHouse Villas เกาะยาวน้อย พังงา
นี่เป็นรีสอร์ทเปิดใหม่ที่มีสไตล์การออกแบบห้องพักที่แตกต่างไม่เหมือนใคร
ผมได้เห็นที่นี่ครั้งแรกจากรายการ YouTube รายการนึง แว๊บแรกที่เห็นคือเห้ยยย!! ที่นี่น่าไป
ลองเข้าไปหาราคาจากเวปเอเจนท์ทั้งหลายก็มีราคาดีๆราคาก็พอจ่ายได้อยู่ เกือบจะตัดสินใจจองอยู่แล้ว
ก็ไปเห็นใน Facebook ของ Andaman Passion เค้าออกโปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับคนไทยมาพอดี เลยมานั่งบวก ลบ คูณ หาร
ดูราคาแล้วเลยตัดสินใจจองที่นี่เลย เพราะเวปเอเจนท์อ่ะราคาเหมือนจะถูกกว่านิดหน่อยแต่เอาจริงๆ เค้าไม่ได้รวมค่าเดินทางอะไรเลย
เข้าไปดูราคาการเดินทางจากเวปของรีสอร์ทเอง แค่เรือไปรีสอร์ทที่เกาะยาวน้อยก็ตกคนละเกือบ 1500 ต่อเที่ยวแล้ว
โปรฯของ Andaman Passion นี่คือรวมทั้งรับ-ส่งด้วยรถตู้จากสนามบินไปท่าเรือ รับ-ส่งไปรีสอร์ทที่เกาะยาวน้อยโดยเรือสปีดโบ๊ท
เลยตัดสินใจไม่ยากว่าจะจองกับที่ไหน โดยการเดินทางทั้งหมดควรกำหนดให้พอดีกับรอบการเดินทางด้วยเรือของรีสอร์ทฮะ
เนื่องจากเที่ยวเรือที่จะเดินทางไปและกลับจากรีสอร์ท จะมีแค่วันละ 2 เที่ยวเท่านั้น คือ
– จากท่าเรือไปโรงแรม รอบ 11.00 น. (เที่ยวบินควรมาถึงภูเก็ตไม่เกิน 9.30 น.)
– จากท่าเรือไปโรงแรม รอบ 16.00 น. (เที่ยวบินควรมาถึงภูเก็ตไม่เกิน 14.30 น.)
– จากโรงแรมไปท่าเรือ รอบ 9.30 น. (เที่ยวบินกลับควรเป็นหลังเวลา 12.30 น.)
– จากโรงแรมไปท่าเรือ รอบ 15.00 น. (เที่ยวบินกลับควรเป็นหลังเวลา 18.00 น.)
ส่วนเมื่อมาถึงสนามบินแล้วก็จะมีรถรอรับเราไปส่งที่ท่าเรือซึ่งเราจะไปขึ้นเรือกันที่ท่าเรือยอร์ช เฮเว่น มารีน่า ภูเก็ต
ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินไม่มากนัก ใช้เวลาการเดินทางจากสนามบินไปท่าเรือประมาณ 15-20 นาทีครับ
เมื่อรถตู้พาเรามาถึงท่าเรือจะมีพนักงานของโรงแรมรอรับกระเป๋าของเราอยู่ ส่วนเราก็เดินไปนั่งรอที่ส่วนรับรองของท่าเรือครับ
เมื่อถึงเวลาเรือออกก็จะมีพนักงานเดินมาตามเราไปขึ้นเรือ จากท่าเรือเรานั่งเรือสปีดโบ๊ทของรีสอร์ทโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ก็จะมาถึงตัวรีสอร์ทที่อยู่ทางตอนบนของเกาะยาวน้อย ที่จริงแล้วอ่าวตรงนี้เป็นที่ตั้งสองรีสอร์ทสองแห่ง
คือ TreeHouse Villas และ พาราไดซ์ เกาะยาว ซึ่งตัวผมเองเคยมาพักที่พาราไดซ์ แล้วเมื่อซัก 3 ปีก่อน
ทราบมาว่ารีสอร์ททั้งสองแห่งนี้มีเจ้าของคนเดียวกัน
การเดินทางมารีสอร์ทด้วยตนเอง อาจจะดูลำบากอยู่เหมือนกันครับ
จากที่ผมเคยมาพาราไดซ์ครั้งก่อน ผมเดินทางด้วยเรือโดยสารจากท่าเรือบางโรงซึ่งเป็นเรือโดยสารของประชาชนทั่วไป
ที่อยู่บนเกาะยาวใหญ่ และเกาะยาวน้อย จะมีทั้งเรือสปีดโบ๊ทและเรือธรรมดา จะมีเรือออกเป็นรอบๆเช่นกัน
พอถึงเกาะก็ต้องเหมารถไปขึ้นเรือที่ท่าเรืออีกท่าเพื่อไปที่ตัวรีสอร์ทอีกที ค่อนข้างลำบากเลยล่ะ
เพราะฉะนั้นวิธีที่สะดวกสุดคือนั่งเรือของรีสอร์ทโดยตรงครับ
เมื่อมาถึงรีสอร์ทก็จะมีพนักงานมาต้อนรับที่ท่าเรือและพาเราเข้าไปที่รีสอร์ท
อย่างที่บอกครับว่าที่นี่มีสองรีสอร์ทติดกันเพราะฉะนั้นจะมีป้ายบอกเขตเลยว่าส่วนนี้เป็นของ TreeHouse เท่านั้น
ห้ามให้ลูกค้าอีกรีสอร์ทเข้ามาภายในบริเวณรีสอร์ท เพื่อความเป็นส่วนตัว
เดินเข้ามาในตัวรีสอร์ทเราก็จะเห็นตัววิลล่าตั้งเรียงรายอยู่
เดินมาไม่ไกลก็ถึงล็อบบี้ ซึ่งเป็นล็อบบี้เล็กๆแบบเปิดโล่งอยู่ข้างๆกับห้องอาหารและสระว่ายน้ำหลักของรีสอร์ท
วิวจากล็อบบี้และห้องอาหารจะมองเห็นทะเลและภูเขาเป็นฉากหลังสวยงาม
ผมเดินทางมากับเรือเที่ยวแรกมาถึงรีสอร์ทเวลาประมาณเที่ยงพอดี ก็จัดการเรื่องเอกหารการเช็คอินกันก่อน
ถ้าโชคดีมีห้องว่างอยู่ก็สามารถเข้าห้องพักได้เลย แต่ถ้ายังไม่มีห้องว่างก็ต้องนั่งรอครับซึ่งเวลาปกติที่ทางรีสอร์ทให้เช็คอินคือบ่ายสองโมงเป็นต้นไป
สิ่งที่ทำให้ที่นี่เป็นที่พูดถึงคือการออกแบบห้องพักซึ่งเป็นวิลล่าแบบสองชั้น ออกแบบเป็นเหมือนกระโจมหรือรังนก
มองจากภายนอกก็รู้สึกว่ามันสวยไม่เหมือนใครในเมืองไทยจริงๆ รีสอร์ทสไตล์นี้อาจจะเห็นเยอะแถบบาหลี แต่ที่เมืองไทยนี่น่าจะเป็นที่แรกเลยมั้ง
วันที่ไปเราโชคดีครับ มีห้องว่างอยู่ก่อนแล้วเราเลยเข้าห้องพักได้ทันทีหลังจากจัดการเรื่องเอกสารเรียบร้อย
เราพักวิลล่าหมายเลข 201 เป็นวิลล่าแถวที่สองนับจากชายหาด
วิลล่ามี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนพักผ่อน มีเตียงนอนอาบแดด ชุดโต๊ะ-เก้าอี้ บาร์เครื่องดื่มที่มีซอฟดริ้งค์เช่นพวกน้ำอัดลม น้ำเปล่าให้ฟรี
และมีตู้ไวน์และแชมเปญให้เลือกโดยต้องเสียค่าใช้จ่าย ที่สำคัญเลยคือมีสระน้ำแบบจากุซซี่ขนาดกำลังดีให้แช่ชิลๆ
ขึ้นมาบนชั้นสองเป็นห้องนอน มีเตียงขนาดใหญ่อยู่กลางห้องพัก ห้องออกแบบได้อย่างลงตัว ดูสวยหรู
ข้างเตียงมีตู้ที่ใส่ตู้เย็นและพวกแก้วน้ำรวมถึงขนมขบเคี้ยว (ซอฟดริ้งค์ฟรี เติมให้ใหม่ทุกวัน , ขนมขบเคี้ยวมีค่าใช้จ่าย)
มีทีวีจอแบน ช่องทีวีมีทั้งไทยและต่างประเทศ มีโต๊ะทำงานอยู่เยื้องปลายเตียง
เยื้องปลายเตียงอีกฝั่งจะมีโซฟานั่งเล่น และเลยไปจะเป็นส่วนของห้องน้ำ มีม่านกั้นเป็นสัดส่วน
หัวเตียงมีลำโพงบลูทูธ พร้อมนาฬิกาตัวเล็กๆให้ด้วย
ที่ปลายเตียง เปิดบานประตูกระจกออกไปเป็นระเบียง มีเก้าอี้นั่งเล่น ดูวิวสวยๆของทะเลพังงาได้
มีเครื่องทำกาแฟพร้อมกาแฟแคปซูล เครื่องต้มน้ำร้อนและชาให้ฟรี
ห้องน้ำตรงนี้อาจจะเป็นข้อเสียสำหรับคนไทยนิดนึง เนื่องจากตัววิลล่าออกแบบให้เป็นกระจกรอบด้าน
ตรงส่วนที่เป็นห้องน้ำก็จะเป็นกระจกเช่นกัน แต่จะเป็นกระจกพ่นทรายเป็นฝ้าบังตา แต่มันก็จะมีความรู้สึกเหมือนไม่ค่อยเซฟสำหรับคนไทย
ตรงนี้ถ้าไม่ซีเรียสก็ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้ารู้สึกเขินหรืออาย ตรงนี้อาจจะทำให้ไม่แฮปปี้ในการมาพักอยู่เหมือนกัน
อ่างแช่น้ำ ออกแบบเหมือนรังนก
ห้องส้วมก็จะนู้ดๆหน่อย
อ้อ … ในห้องพักจะมีไอแพดมินิให้ใช้งาน 1 เครื่องครับ เราสามารถใช้เล่นอินเตอร์เน็ต
หรือใช้ Google Hangouts ในเครื่อง ติดต่อสอบถามเรื่องต่างๆกับทางแผนกต้อนรับได้ตลอดเวลา
ถ้าไม่สะดวกก็ยังมีโทรศัพท์ให้ใช้งานครับ
ลงมาด้านล่างกันอีกทีดีกว่า
บอกเลยว่าอยู่ที่นี่แช่น้ำเกือบทั้งวันครับ ใช้พื้นที่ชั้นล่างมากพอๆกับชั้นบนเลย
ด้านล่างนี้ก็มีห้องน้ำให้ใช้เหมือนกันนะครับ เพียงแต่ไม่มีที่อาบน้ำแค่นั้นเอง
ช่วงเวลาแห่งความสุข ..
เล่นน้ำหนำใจแล้วก็ได้เวลากินข้าว ห้องอาหารที่นี่ชื่อ ROOTS ครับ ตั้งอยู่ข้างล็อบบี้อย่างที่บอกตอนต้น
ที่นี่ให้บริการอาหารเช้า กลางวันและเย็น อาหารที่มีบริการเป็นอาหารไทยและอิตาเลี่ยนเป็นหลัก
เราทานอาหารไทยทุกมื้อที่อยู่ในรีสอร์ทครับ อาหารรสชาติค่อนข้างดี หลายๆอย่างอร่อยมาก แต่หลายๆอย่างก็ออกรสกลางๆ แบบฝรั่งทานได้
ส่วนราคาก็มาตราฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่ก็ไม่ได้ถึงกะแพงหูฉี่ซะทีเดียว
ทานเสร็จก็มาเดินถ่ายรูปเล่นกันครับ ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆหลายมุมเลยฮะ
บางมุมอาจจะต้องดูให้ดีๆ อย่างมุมที่ถ่ายบนสะพาน มันเป็นทางเดินไปวิลล่าของลูกค้าท่านอื่น
ผมก็จะเลือกถ่ายในช่วงเวลาที่ไม่มีลูกค้าอยู่ แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปในบริเวณบ้านพักคนอื่นนะครับ
ถ้าใครไปแล้วอยากได้มุมสวยๆก็อย่าลืมว่าเราไม่ควรไปรบกวนลูกค้าท่านอื่นด้วยนะครับ ขอนี้ข้อสำคัญเลยเวลาที่ผมถ่ายภาพในรีสอร์ท
ออกมาเดินริมหาดกันบ้าง ตัวรีสอร์ทหันหน้าไปทางทิศตะวันออกครับ เพราะฉะนั้นเราจะมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้
วิวที่เห็นก็จะเป็นเกาะต่างๆห่างออกไปจนถึงแผ่นดินของจังหวัดกระบี่ไกลลิบๆ
ริมชายหาดมีชิงช้าให้นั่งเล่น มีเตียงอาบแดดให้ นอกจากนี้ยังมี บีชบาร์ ซึ่งเราสามารถใช้บริการร่วมกับอีกรีสอร์ทได้
จะเห็นว่าหน้าหาดมีหินเยอะครับ หน้ารีสอร์ทเลยไม่ค่อยเหมาะกับการลงเล่นน้ำ
แต่ถ้าใครอยากเล่นน้ำทางรีสอร์ทก็มีเรือบริการไปเกาะผักเบี้ย วันละ 1 เที่ยว (ไป 11 โมง กลับบ่าย 2)
แต่เราต้องเป็นคนจ่ายค่าเข้าอุทยานฯและเตรียมอาหารไปเอง
ภาพมุมสูง จะเห็นว่าวิลล่าตั้งอยู่เรียงรายกัน มีวิลล่าอยู่ทั้งหมด 4 แถว
แถวหน้าสุดเป็นแบบ Beachfront Pool Villa และข้างหลังอีก 3 แถวจะเป็นห้องพักแบบ TreeHouse Villa
ถ้าถามถึงห้องที่มีวิวดีๆตามที่ผมสังเกตผมว่าห้องที่เป็นวิลล่าที่ขึ้นต้นด้วยเลข 4xx หรือวิลล่าแถวหลังสุดจะเป็นวิลล่าที่เห็นวิวดีที่สุดครับ
วิลล่าหันหน้าออกทะเลทุกหลัง มองเห็นวิวทะเลทุกหลัง
ภาพรีสอร์ทตอนค่ำ เปิดไฟสวยงามทั้งรีสอร์ทครับ
ทีนี้ผมจะพาไปชมห้องพักแบบ Beachfront Pool Villa กันบ้าง
ห้องพักแบบนี้จะอยู่หน้าหาดเลยครับ ในตัวห้องพักจะเป็นแบบเดียวกับห้องแบบที่เราพักเลย
ต่างกันตรงสระที่อยู่หน้าห้องจะใหญ่กว่าและจะมีศาลานั่งเล่นอยู่ข้างๆห้องนอน
สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้เหมือนกันหมดครับ ถ้าใครที่ชอบอยู่ติดริมหาดห้องแบบนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยฮะ
ช่วงค่ำกับบรรยากาศในรีสอร์ท .. วิลล่าแต่ละหลังจะเปิดไฟสีสรรค์สวยงาม
ห้องอาหาร
ทานอาหารกลับมาที่ห้องพัก พนักงานก็มา Turndown ปิดม่าน เปิดไฟ กางมุ้ง ให้เราเรียบร้อย
บนเตียงเราก็ถ่ายรูปเล่นกันได้นะเออ แค่มีอุปกรณ์ไปนิดหน่อยก็สร้างภาพสวยๆได้แล้ว
ช่วงเช้าเป็นอีกช่วงที่ควรตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น
ถ้าอากาศดี โชคดีก็เป็นของเราแบบที่เห็น
ที่เกาะยาวน้อยขึ้นชื่อเรื่องของธรรมชาติ และเป็นแหล่งที่เราสามารถเห็นนกเงือกได้ง่าย
ตื่นเช้ามารับอากาศดีๆ มองเห็นนกเงือกบินเข้าออกจากป่าหลังรีสอร์ทเป็นสิบๆตัว
ถ้าในอนาคตต้นไม้เริ่มโต รีสอร์ทจะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ที่นี่จะสวยขึ้นอีกเป็นกอง
อาหารเช้าที่นี่เป็นแบบ A la carte สามารถสั่งเพิ่มได้ถ้าทานไม่อื่ม รวมถึงมีบาร์อาหารเล็กๆให้เลือกทานเพิ่มเช่นสลัด ขนมหวาน ขนมปัง ผลไม้ ฯลฯ
ถึงเวลาที่จะกลับกันแล้ว เราเลือกที่จะกลับในเที่ยวเรือรอบบ่ายสามโมง
แต่เราต้องคืนห้องตั้งแต่ช่วงเที่ยงเพราะช่วงที่ไปห้องพักค่อนข้างเต็ม แต่ถ้าไม่มีลูกค้าพักหลังจากเรา
ก็สามารถขอเลทเช็คเอ้าท์ได้ถึงบ่ายสองโมงครับ ช่วงที่รอเวลาก็เดินเล่นถ่ายรูป หรือทานอาหารกลางวันรอก็ได้
อ่อ ที่โรงแรมเค้ามีสปานะครับ เป็นสปาที่ห้องพักเลย แต่เราไม่ได้ใช้บริการ
ในโปรฯที่เราจองกับทาง Andaman Passion จะมีโยคะให้ 1 ครั้ง อบสมุนไพร 1 ครั้ง มีจักรยานให้ปั่นเล่นรอบรีสอร์ท มีเรือคายัคให้เล่นฟรี
เรานั่งเรือกลับจากรีสอร์ทใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงท่าเรือยอร์ช เฮเว่น มารีน่า
ที่ท่าเรือจะมีรถของ Andaman Passion มารอรับ เพื่อไปส่งที่สนามบิน
สรุป ..
TreeHouse Villas เป็นรีสอร์ทที่มีสไตล์ไม่เหมือนใครจริงๆครับ สัมผัสแรกมันจะทำให้คุณรู้สึกว๊าวววว
ห้องพักออกแบบได้น่ารัก หรูหรา และแปลกใหม่ มาพักที่นี่เหมือนได้มาชาร์ตพลังบวกกลับไปเต็มที่
อยู่แต่ในรีสอร์ท นั่งๆนอนๆ กินๆ เล่นๆ อยู่กับธรรมชาติ วิวหน้าห้องเป็นทะเล หลังห้องเป็นภูเขา อากาศดี บรรยากาศเริ่ด
ข้อเสียที่รู้สึกจริงๆคือความไม่ส่วนตัว อย่างที่บอกว่าห้องน้ำค่อนข้างจะนู้ด แต่ถ้าไม่ซีเรียสและมองข้ามได้ก็มาเลยครับ
รีสอร์ทนี้เหมาะมากๆสำหรับการมาพักผ่อนกับคู่รัก มีมุมถ่ายรูปสวยๆหลากหลายมุม
การเดินทางต้องนั่งรถ ต่อเรือ คนที่เมาเรือง่ายอาจจะต้องเตรียมทานยากันไว้เพราะบางจุดอาจจะเจอคลื่นแรง แต่ไม่ถึงกับอันตราย
เตรียมขนมมาเยอะๆครับ เพราะเมื่อคุณมาถึงรีสอร์ทมันจะเหมือนคุณโดนตัดขาดจากโลกภายนอก
การเดินทางด้วยรถไปมาจากส่วนอื่นๆของเกาะมารีสอร์ทค่อนข้างลำบากครับ การเดินทางสะดวกที่สุดคือการเดินทางทางเรือ
นอกจากนี้ไม่มีอะไรแล้ว ถ้าคุณพร้อมก็แค่จองตั๋ว จองโปรฯโรงแรม แล้วแพ็คกระเป๋า เตรียมพร้อมมาเที่ยวให้สนุกแค่นั้นเอง
ผมมาแล้ว .. คุณพร้อมจะตามมารึยังครับ ..
สำหรับคนที่สนใจ ตอนนี้มีโปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับคนไทยอยู่ที่ Andaman Passion
สนใจติดต่อได้ที่
Facebook :: Andaman Passion
Line ID :: @andamanpassion
Mobile :: 062-9566124 , 062-9562416
บริษัทนี้เรารับจัดทริปเที่ยวแถบภูเก็ตนะ จะทริปเล็กทริปใหญ่เค้ารับหมด
ใครขับรถไม่เป็น แต่อยากได้รถพร้อมคนขับไว้ใช้งานตอนมาเที่ยวถูเก็ตเค้าก็มีบริการ
อยากได้รถรับส่งสนามบินไปโรงแรมที่พัก หรือไปที่ต่างๆเป็นครั้งๆไปเค้าก็มีบริการ
มีทั้งรถเก๋ง รถตู้ รถตู้ VIP มีหมด ถ้าสนใจสอบถามกันได้เลย
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าโปรฯของ TreeHouse หมดเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ราคาพิเศษจริงๆก่อนรีสอร์ทจะปรับราคาขึ้นนะ
เดินทางกลับด้วยสารการบินบางกอกแอร์เวย์ หอบความสุขกลับมาเต็มลำครับ