อย่าลืม.. สีฟ้า เวลาหิว …
สโลแกนที่ใครหลายๆคนคุ้นเคย ใช่แล้วครับวันนี้เราจะมารีวิวร้านอาหารสีฟ้าให้ชมกัน
ร้านอาหารขึ้นชื่อเก่าแก่ที่อยู่คู่คนไทยมาจนถึงตอนนี้ก็เข้าปีที่ 82 แล้วครับ
ถ้าจะให้พูดถึงต้นกำเนิดร้านสีฟ้า ร้านแรกอยู่ที่ย่านราชวงศ์ โดยแรกเริ่มเดิมทีเป็นร้านตึกแถวห้องเดียวไม่มีชื่อ
ขายแต่พวกไอศกรีมและผลไม้เท่านั้น แต่อยู่ๆมาร้านอาหารแถวๆนั้นเริ่มปิดตัวลงเจ้าของซึ่งเป็นคนจีนก็เลยคิดทำร้านอาหารเอง
โดยจ้างกุ๊กคนจีนที่ตกงานมาช่วยคิดค้นสูตรอาหาร และเริ่มขายตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
และเนื่องจากย่านราชวงศ์เป็นย่านคนมีอันจะกิน จากร้านเล็กๆก็เริ่มขายดีจนต้องปรับปรุงและขยายร้าน
โดยตอนนั้นได้ทาสีบนผนังร้านเป็นสีฟ้า ผู้คนที่มากินและผ่านไปผ่านมาจึงเรียกชื่อร้านนี้ว่าร้าน “สีฟ้า” เป็นต้นมานับแต่นั้น
นี่คือประวัติย่อๆ ของร้านสีฟ้า ซึ่งจนถึงตอนนี้ สีฟ้ามีสาขามากถึง 20 สาขาแล้วล่ะครับ
ร้านที่เราทานประจำจะเป็นสาขาสยามสแควร์ และเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งการออกแบบร้านก็อาจจะดูออกแนวรุ่นเก่าๆหน่อย
แต่วันนี้เราจะมาทานสีฟ้าสาขาใหม่กิ๊งๆ น่าจะเป็นสาขาล่าสุดที่เพิ่งเปิดเลยด้วยมั้ง ที่สำคัญร้านนี้ใกล้บ้านมากๆ
มื้อนี้เรามาทานกันที่สีฟ้า สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต กันซึ่งร้านตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในศูนย์การค้าเลยครับ
สีฟ้า สาขาใหม่ๆเท่าที่เห็นเค้าเริ่มออกแบบให้ร้านดูทันสมัยมากขึ้นแล้วนะ วัยรุ่นอย่างเราเดินเข้าไปทานรับรองไม่เอ้าท์ 555
สาขานี้ร้านไม่ใหญ่มากครับ รับลูกค้าได้ประมาณ 10 โต๊ะ เห็นร้านแล้วดูสวยใช่มั๊ยล่ะ ลืมภาพเดิมๆที่เคยเห็นไปได้เลย
เอาล่ะ .. เห็นภาพภายในร้านแล้ว เรามาพูดกันถึงเรื่องอาหารบ้าง
ร้านสีฟ้าสาขานี้จะไม่ได้เสิร์ฟอาหารครบเมนูหลักเหมือนสาขาหลักๆทั่วไปครับ อาจจะเนื่องจากเป็นร้านเล็ก
สีฟ้าเลยเลือกเมนูอาหารขายดีที่คัดสรรมาแล้วว่าเด็ด ทั้งหมด 38 เมนู เอามาเป็นเมนูของสาขานี้ให้เราได้ลิ้มลองกัน
ตอนนี้สีฟ้ามีโปรโมชั่น “บะหมี่ไข่กินกับอะไรก็อร่อย” อยู่ครับ เป็นการจับคู่เมนูบะหมี่ไข่ 2 เมนู
- บะหมี่แห้งอัศวิน ทานคู่กับเกี๊ยวกรอบ และเลือกน้ำสมุนไพรได้ 1 จาก 4 รสชาติ
- บะหมี่แห้งเป็ดย่าง ทานคู่กับขนมจีบ และเลือกน้ำสมุนไพรได้ 1 จาก 4 รสชาติ
ในราคาเพียง 250 บาทเท่านั้น
น้ำสมุนไพรที่ให้เลือกมี เก๊กฮวยเปปเปอร์มิ้นท์ และกระเจี๊ยบพุทราจีน ที่เห็นในภาพ และยังมี ตะไคร้ใบเตย มะตูมขิงอีกด้วย
เราสั่งเป็นชุดนี้ครับ
บะหมี่แห้งอัศวิน (จานปกติราคา 135 บาท)
บะหมี่ของสีฟ้าเค้าบอกว่าเป็นบะหมี่ไข่แท้ๆ ทำให้เนื้อสัมผัสไม่เหมือนบะหมี่ที่อื่น ก็จริงดังว่าครับ
แฟนผมเป็นคนชอบทานบะหมี่ของสีฟ้ามากๆ ติดใจในความเหนียวนุ่มที่ไม่เหมือนใครนี่ล่ะ
ทำไมชื่อบะหมี่แห้งอัศวิน .. เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ฮ่าๆ ไม่อยากฟังก็จะเล่านะครับพอดีรู้ประวัติมาเลยอยากเล่า
คือมันเป็นเมนูเริ่มแรกแต่ร้านแรกของสีฟ้า เหล่าบรรดานายตำรวจในสมัยนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มอัศวินนิยมมาสั่งบะหมี่ที่ร้านทาน
แล้วชอบให้ใส่เครื่องเพิ่มนั่นใส่นี่เข้าไปหลายๆอย่างเป็นพิเศษ ในชามเลยมีเครื่องหลากหลายทั้ง
หมูแดง หมูหวาน กุ้ง เนื้อไก่ ปลาเส้น ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา
คนอื่นๆมาเห็นเข้าก็อยากทานแบบนี้บ้างเลยเป็นที่มาของบะหมี่แห้งอัศวินฮะ
ส่วนเรื่องรสชาติอร่อยแน่นอนอยู่แล้ว วัตถุดิบต่างๆที่ใส่ทางร้านก็คัดสรรมาอย่างดี
เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม หอมกระเทียมเจียว ปรุงแล้วคลุกเคล้ากันอร่อยเด็ด
อีกจานที่อยู่ในชุดบะหมี่ไข่ก็คือ เกี๊ยวกรอบ (จานปกติราคา 70 บาท)
จานนี้เป็นจานประจำเวลาที่เรามาทานสีฟ้ากันเลยครับ ตัวแผ่นเกี๊ยวเป็นวัตถุดิบแบบเดียวกับที่เอาไปทำบะหมี่สีฟ้า
ทำให้เวลาทอดแล้วจะกรอบ แต่เวลากัดเข้าปากแล้วจะละลายไม่เหมือนที่ไหนๆ นั่นทำให้มันเป็นเสน่ห์ของเกี๊ยวกรอบของสีฟ้า
อ้อ .. อีกอย่างที่เสริมความอร่อยคือน้ำจิ้มบ๊วยซึ่งเป็นน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางสีฟ้าเองอีกด้วย
จานต่อมาเราสั่งปอเปี๊ยะสดเป็ดย่าง (75 บาท) มาทานเล่นกันอีกจาน
ปอเปี๊ยะสดที่นี่มีความพิเศษ เพราะเค้าใส่เป็ดย่างลงไปร่วมกับ หมูตั้ง เต้าหู้ และกุนเชียงด้วย
แล้วก็ราดด้วยน้ำซอสเหนียวข้นรสชาติไม่เหมือนใคร เวลาทานก็เอามาจิ้มมัสตาร์ดหน่อย เป็นอีกจานที่อร่อยต้องลองฮะ
จานต่อไปนี้พลาดไม่ได้เลย
ถ้ามาสีฟ้าต้องสั่งจานนี้เลย เป็ดย่างหมูแดง (175บาท)
นี่เป็นจานดังสร้างชื่อของสีฟ้าเลยก็ว่าได้ เนื่องจากกรรมวิธีการทำแบบจีนกวางตุ้งแท้ๆสูตรต้นตำหรับ
ที่สืบทอดกันมาจนถึงทุกวันนี้ทำให้เป็ดย่างและหมูแดงของสีฟ้าอร่อยไม่เปลี่ยนแปลง
เป็ดผ่านการหมักและย่างจนหนังมีสีเข้มและบางแทบจะไม่มีไขมันติดหนัง
หมูแดงเป็นเนื้อส่วนสันนอกคัดมาพิเศษติดมันนิดๆหมักแล้วเอามาย่างทำให้เนื้อนุ่มแน่น
ทั้งสองอย่างใส่จานราดซอสสูตรพิเศษของสีฟ้าที่หอมกลิ่นเครื่องเทศและเต้าเจี้ยวรสออกเค็มๆหวานๆ
แล้วจิ้มกับซอสซีอิ้วอร่อยเพลินจริงๆ
อีกจานประจำของเราคือ หมูสะเต๊ะ (140 บาท)
แอบรู้มาว่านี่คือหมูสะเต๊ะสูตรดั้งเดิมที่เคยขายอยู่หน้าร้านสีฟ้า ราชวงศ์มาตั้งแต่เริ่มแรก
เมื่อร้านหมูสะเต๊ะจะเลิกขาย ทางสีฟ้าจึงขอซื้อสูตรนี้มาทำเป็นหมูสะเต๊ะรสชาติอร่อยคุ้นเคยที่เราได้ทานกันมาจนถึงทุกวันนี้
หมูสะเต๊ะสีฟ้าทำจากเนื้อหมูสันนอกคัดพิเศษ ติดมันนิดหน่อยพอให้นุ่ม เอามาหมักและปิ้งด้วยไฟแรง
แล้วชะโลมน้ำกระทิลงไปให้ได้กลิ่นและความหอม จากนั้นเอาน้ำจิ้มสะเต๊ะไปคลุกเคล้าให้ได้สะเต๊ะที่น่ากิน
ในจานจะเสิร์ฟคู่กับขนมปังปิ้ง น้ำอาจาด จิ้มกับน้ำจิ้มสะเต๊ะที่อร่อยไม่เหมือนใคร
มาดูจานหลักกันบ้าง เราสั่ง ข้าวอบขาหมู (125บาท)
เมนูหม้อดินอร่อยๆของสีฟ้ามีให้เลือกทานมากมายครับ ผมชอบทานหลายๆเมนูเลยล่ะ
แต่วันนี้สั่งข้าวอบขาหมูมาทานกันบ้าง ลืมๆเมนูเป็ดย่างจานตะกี้ไปก่อน จานนี้เราสั่งมาเพื่อเพิ่มเจลาตินให้ร่างกายโดยแท้
ข้าวขาหมูที่ไหนก็มีให้กิน แต่ถ้าบอกว่าขาหมูสีฟ้าไม่เหมือนใครจะเชื่อมั๊ย ..
ขาหมูเสิร์ฟมาในหม้อดินราดข้าวอบร้อนๆ ขาหมูเปื่อยกำลังดี ใครชอบทานขาหมูติดหนัง เมนูนี้ห้ามพลาด
ที่บอกว่าขาหมูที่สีฟ้าไม่เหมือนใครเพราะขาหมูที่นี่จะหอมเครื่องยาจีนมาก และที่สำคัญอีกอย่างนึงคือ
จะมีผัดฉ่อยก๊อนที่คล้ายๆผักกาดดองแต่อร่อยกว่ามาก ตุ๋นจนเปื่อยได้ที่ใส่มาให้ทานคู่กับขาหมู รสออกเค็มนิดๆอร่อยกำลังดี
ทานคู่กับพริกน้ำส้มอร่อยเข้ากัน
อีกจานเราสั่งเป็นเมนูเส้นๆมาลองเมนูนี้ไม่เคยสั่งทานเลยครับ
ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าเนื้อสับ (135บาท)
ง่ายๆเลยจานนี้ทานแล้วไม่เหมือนราดหน้าทั่วไปตรงที่เค้าใส่น้ำพริกเผาลงไปนิดหน่อยด้วย
ทำให้รสชาติของน้ำราดหน้าที่เข้มข้น มีรสชาติออกเผ็ดนิดๆจากตัวพริกเผา แปลกแต่อร่อยไม่เหมือนใครอีกแล้ว
เส้นใหญ่นุ่มเหนียว ทานกับคะน้าคัดพิเศษ เข้ากับเนื้อสับสุดๆ จานนี้แทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม แค่เหยาะน้ำส้มลงไปอร่อยเลย
เอาล่ะของคาวผ่านไปแล้วเรามาที่ของหวานกันบ้าง
จานแนะนำของสีฟ้าตอนนี้คงจะต้องเป็นจานนี้เลย ไอศกรีมข้าวเหนียวทุเรียนหมอนทอง (145บาท)
เค้าบอกเป็นเมนูอร่อยคูณ2 เพราะว่าจัดเสิร์ฟไอศกรีมทุเรียนมาพร้อมๆกับข้าวเหนียวทุเรียนให้คนรักทุเรียนได้อร่อยสะใจกันไปเน้นๆ
เรียกว่าเมนูนี้ทุเรียนเลิฟเวอร์ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
จานต่อมาเป็นข้าวเหนียวมะม่วง (170บาท)
เอาจริงๆเคยคิดว่าทำไมข้าวเหนียวทุเรียนที่สีฟ้าต้องราคาสูงขนาดนี้ แต่หลังจากสั่งมาทานก็รู้เลย
ว่าที่ราคาเค้าสูงเพราะมะม่วงเค้าคัดมาดีจริงๆ ทั้งเนื้อแน่น หวานหอม ปลอดมานี่ไม่มีช้ำให้เห็นเลย
ทานกับข้าวเหนียวเคี้ยวงูมูลอร่อยไม่หวานมาก แบบนี้บอกเลยยอมอ้วน
สุดท้ายกับไอศกรีม อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าที่จริงสีฟ้ามีต้นกำเนิดมาจากการขายไอศกรีม
เพราะฉะนั้นเรื่องไอศกรีมไว้ใจสีฟ้าได้เลยว่าอร่อยแน่นอน ซึ่งตัวผมเองชอบทานไอศกรีมกาแฟ
และแฟนชอบทานไอศกรีมวนิลลามากๆ ยิ่งเสิร์ฟมากับเจลลี่ด้วยแล้วจะยิ่งเข้ากันมากเข้าไปอีก
บทสรุป ..
หลายๆคนอาจจะเคยเห็นร้านสีฟ้าแต่ไม่เคยเข้าไปทานเพราะร้านที่เห็นอาจจะดูไม่ทันสมัย
แต่จริงๆแล้วอาหารต้นตำหรับของสีฟ้าแทบทุกเมนู มีประวัติรวมไปถึงกรรมวิธีการทำที่เป็นสูตรเฉพาะมาเป็นสิบๆปี
บ้านเราทานสีฟ้ามาตั้งแต่รุ่นปู่เพราะฉะนั้นจึงเรียกได้ว่าเป็นลูกค้าประจำของร้านสีฟ้ามานานพอสมควร
เราติดใจในเมนูของสีฟ้ามากมายหลายเมนู จนวันนี้เราเห็นสีฟ้ามาเปิดให้บริการที่เซ็นทรัล เวสต์เกตซึ่งมันอยู่ใกล้ๆบ้าน
ที่นี่คงเป็นร้านประจำอีกร้านนอกจากสาขาสยามสแควร์ เซ็นทรัลเวิลด์ และเอสพลานาดรัชดาฯ
นอกจากนี้สีฟ้ายังมีสาขาให้ได้ลิ้มลองอีกหลายสาขาได้แก่ ธนิยะ , เมเจอร์รัชโยธิน , ทองหล่อ , แฟชั่นไอส์แลนด์ ,
โลตัสพระราม 4 , โลตัสพระราม 3 , เทอร์มินัล 21 , โลตัสประชาชื่น , โลตัสลาดพร้าว , ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ,
เอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย , เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์ , โรงพยาบาลรามาธิบดี , สาธร และ เมกาบางนา
นอกจากนี้ยังมีบริการส่งถึงบ้าน (โทร 02-800-8080) อีกด้วย
ติดตามข่าวสารข้อมูลและโปรโมชั่นได้ที่ อย่าลืมสีฟ้าเวลาหิว
นี่เป็นอีกร้านที่อยากให้ไปลองทานกันครับ รับประกันความอร่อยมา 82 ปีแล้วนะ