ทริปนี้เราอยู่กันที่หัวหินครับ ผมจะพาไปชมโรงแรมใหม่อีกแห่งในเมืองหัวหินกัน
” AVANI Hua Hin Resort & Villas “
โรงแรมขนาดใหญ่ มีห้องพักทั้งหมดถึง 196 ห้อง ที่นี่มีอะไรดีจนทำให้เราต้องมารีวิว
ตามไปชมกันครับ ..
อวานี หัวหินตั้งอยู่ก่อนถึงตัวเมืองหัวหินเล็กน้อยครับ
ถ้าขับรถมาจากกรุงเทพฯ โรงแรมจะอยู่ก่อนถึงสนามบินบ่อฝ้ายนิดหน่อย
เลี้ยวรถเข้ามาเราจะเจอกับล็อบบี้ขนาดใหญ่ ลงกระเป๋าเสร็จขับรถไปจอด
จะมีรถบักกี้ขับตามมารับเราครับ เราแจ้งว่าจองห้องพักในแบบ AVANI LAGOON POOL VILLA ไว้
ทางพนักงานก็บอกว่าจะพาเราไปเช็คอินที่ AVANICLUB
ซึ่งเป็นคลับเลาจน์สำหรับผู้เข้าพักในห้องแบบวิลล่าเท่านั้น
ซึ่งคลับนี้จะตั้งอยู่ด้านในของโรงแรมใกล้ๆชายทะเล
เมื่อมาถึงก็จะมีพนักงานต้อนรับให้การรับรองและนำเครื่องดื่มต้อนรับพร้อมผ้าเย็นมาให้
จัดการเรื่องเอกสารเสร็จพนักงานก็จะพาเราขึ้นรถบักกี้มาส่งที่ห้องพักครับ
อย่างที่เกริ่นตอนต้น เราพักกันในวิลล่าที่เรียกว่า อวานี ลากูน พูล วิลล่า ไปดูกันดีกว่าว่าห้องที่เราพักเป็นยังไง
อวานี ลากูน พูล วิลล่า เป็นบ้านพักขนาดใหญ่ขนาด 188 ตร.ม.
ชื่อบ่งบอกอยู่แล้วว่ามันเป็นพูลวิลล่า ที่มีสระน้ำขนาดใหญ่เชื่อมต่อเป็นลากูน
เตียงนอนขนาดคิงไซส์หนานุ่ม มีหมอนให้เลือก 2 แบบ ด้านข้างมีโต๊ะทำงานเล็กๆให้ด้วย
เตียงนอนหันปลายเท้าไปทางสระว่ายน้ำ มีทีวีขนาดใหญ่แขวนอยู่เยื้องๆมุมห้อง
แยกส่วนของที่พักผ่อนด้วยการทำเป็นพื้นเล่นระดับ ด้านล่างจะเป็นโซฟา
มีโต๊ะอาหาร บาร์เครื่องดื่ม เครื่องทำกาแฟ
หน้าบ้านพักจะมีเตียงอาบแดด ชุดเก้าอี้ และเดย์เบดเก๋ๆไว้ให้นั่งชิลอีกด้วย
ห้องน้ำอยู่ด้านหลังเตียงนอนครับ มีห้องสุขาและห้องอาบน้ำแยกส่วนเปียกแห้ง
และยังมีอ่างแช่น้ำขนาดกำลังดีให้ผ่อนคลายอีกด้วย ด้านนอกเปิดออกไปยังเป็นห้องอาบน้ำกลางแจ้งอีกด้วย
ชอบห้องน้ำที่นี่ตรงที่เตรียมผ้าขนหนูไว้ให้หลายไซส์และเยอะสะใจมากๆ
พวกของใช้ในห้องน้ำก็มีให้ครบครันนะครับ
อ่างแช่น้ำก็จะเก๋ๆหน่อยตรงที่สามารถเปิดม่านไฟฟ้าออกไปมองวิวหน้าบ้านพักได้
บรรยากาศยามค่ำคืนบริเวณวิลล่าครับ
พามาชม AVANICLUB กันบ้างครับ ตรงนี้ล่ะครับที่เป็นที่เช็คอินตอนที่เราเข้าพัก
และเป็น Club พิเศษสำหรับผู้เข้าพักในห้องพักแบบวิลล่าเท่านั้นฮะ
เราสามารถมาใช้บริการเลาจน์ได้ทั้งวันครับ โดยจะมีเครื่องดื่มไว้ให้บริการ
แต่จะพิเศษตอนช่วงเย็นจะมี Sunset Cocktails ในช่วงเวลา 17.30-18.30น.
โดยจะมีพวกอาหารว่าง ของขบเคี้ยว ขนมหวาน ผลไม้ เบียร์ ไวน์ ค็อกเทล และเครื่องดื่มซอฟดริ้งค์ให้บริการ
บอกได้คำเดียวว่าคุ้มสุดๆถ้าได้มาใช้บริการที่นี่
ทีนี้มาดูพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรมบ้างดีกว่าครับ
ที่อวานี หัวหิน นอกจากห้องพักแบบที่เราพักแล้วยังมีห้องพักแบบอื่นๆอีกรวมเป็น 9 แบบห้องพัก
พื้นที่โรงแรมเป็นแนวยาว เลยจากตัวล็อบบี้หลักมาจะเป็นอาคารห้องพักอีก 4 อาคาร
เป็นแบบ 3 ชั้น 3 อาคาร แบบ 2 ชั้น 1 อาคาร ตั้งขนานกันแถวละ 2 อาคาร
มีจุดเด่นตรงส่วนกลางจริงๆฮะ ที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำจะตั้งอยู่เป็นแนวยาวตามรูปแบบของอาคาร มี 2 สระใหญ่ๆเลยล่ะครับ
สระออกแบบเป็นสโลปเหมือนเดินจากชายหาดลงไปในทะเล ความลึกสูงสุดน่าจะอยู่ที่ 1.2 เมตร
ในสระมีซุ้มนั่งและเตียงอาบแดด อีกส่วนนึงจะถูกแบ่งเป็นสวน
อันนี้เป็นสระน้ำสระที่สอง
ทั้งสองสระถูกแบ่งคั่นด้วย AVANIKIDS และ ห้องอาหาร อควา (Aqua)
ส่วนของอวานีคิดส์นี่พิเศษสำหรับคุณหนูๆเลยล่ะครับ
ตัวคิดส์คลับนี้จะมีสระว่ายน้ำของเด็กๆให้เป็นพิเศษอีกหนึ่งสระฮะ
มีน้ำพุด้วย แถมพื้นโดยรอบจะเป็นพื้นโฟมนิ่มๆเซฟคุณหนูๆได้ดีระดับนึงเลยทีเดียว
คิดส์คลับนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 9 โมงเช้าไปจนถึง 6 โมงเย็นครับ
ภายในก็จะมีกิจกรรมหลากหลายชนิดให้คุณน้องคุณหนูเล่น ไม่ว่าจะเป็นการระบายสี
เครื่องเล่นเด็ก เกมส์ Play Station มีหนังสือเด็กให้อ่าน และที่ขาดไม่ได้คือบ้านบอล
ทุกอย่างเล่นฟรีหมดนะครับ จะมีอุปกรณ์เป็นบางอย่างที่อาจจะเสียเงินเพิ่มเช่นพวกตุ๊กตาปูนปาสเตอร์
ที่นี่จะมีพนักงานคอยดูแลตลอดเวลานะครับ แต่ถ้าเป็นเด็กที่เล็กมากหน่อยก็ต้องขอให้ผู้ปกครองอยู่ดูแลด้วย
บอกเลยว่าคุณหนูๆต้องห้ามพลาดสำหรับที่นี่
นี่เราก็พาเด็กมาด้วย ฮ่าๆๆ
ข้างๆกับคิดส์คลับ จะมีห้องอาหารชื่อ อควา (Aqua) เป็นอาหารสไตล์ชิล พูล บาร์
คือจะมีพวกอาหารทานเล่น และ พิซซ่า รวมถึงอาหารจานเดียว รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆ
เปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึง 1 ทุ่ม
ปล.จักรยานที่เห็นเราสามารถยืมได้ที่ล็อบบี้นะครับ เอาไว้ปั่นไปที่ต่างๆในรีสอร์ทได้เลย
ห้องอาหารเป็นแบบเปิดโล่ง เห็นแบบนี้นั่งเย็นสบายเลยครับ ลมพัดตลอดเวลา
ไปดูหน้าตาอาหารกันบ้างดีกว่า
พิซซ่าซีฟู้ดแป้งบางกรอบน่าทานมากๆ
ส้มตำหมูย่าง ผัดไทยกุ้งสด ปีกไก่เม็กซิกัน และสปาเกตตี
แต่ไฮไลท์จริงๆอยู่ตรงไอศกรีมครับ ที่เห็นคือไอศกรีมลูกตาล
ซึ่งเมนูนี้ทางโรงแรมบอกว่าเชฟคิดและตั้งใจทำขึ้นมา เพราะแถบหัวหิน ชะอำ มีต้นตาลเยอะ
เชฟเลยอยากเอาลูกตาลมาทำไอศกรีม ซึ่งมันอร่อยมากจริงๆ
ไอศกรีมโฮมเมดลูกตาลสีเหลือง ใส่มาในลูกมะพร้าวแช่เย็นจัดๆ ทานคู่กับเนื้อลูกตาลที่ทำเป็นสีม่วงตัดกันสวยงาม
โรยหน้าด้วยหัวกะทิ คือกินแล้วรู้สึกสดชื่นหอมกลิ่นลูกตาล แถมได้เนื้อสัมผัสลูกตาลจริงๆด้วย
ใครมาที่นี่ต้องสั่งทานนะครับ ไม่สั่งนี่พลาดมากๆ
อิ่มกันแล้วก็ได้เวลากลับมาเล่นน้ำที่วิลล่า
อย่างที่บอกตอนต้นครับว่าวิลล่าของเรามีสระน้ำหน้าห้องซึ่งเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่หรือที่โรงแรมเรียกว่าลากูน
สระมีความลึกประมาณ 1.2 เมตรครับ ไม่ลึกมากเล่นสบายๆเลย
แถมหน้าห้องพักมีหัวจากุชซี่ให้เราได้แช่ฟองอากาศด้วย
ใครที่ชอบเล่นน้ำมากๆต้องมานอนห้องแบบนี้เลยครับ ส่วนเราก็เอาเป็ดยักษ์ตามมาเล่นด้วยเหมือนเดิม
ตรงมุมบนของสระจะมีเก้าอี้อาบแดดกลางน้ำไว้ให้นอนเล่นด้วยครับ
เอาล่ะ .. ทีนี้เราไปดูห้องพักแบบอื่นๆกันบ้างครับ
ห้องแบบแรกเป็นวิลล่าแบบ อวานี ลากูน พูล วิลล่า 2 ห้องนอน ซึ่งจะอยู่ในบริเวณเดียวกันกับวิลล่าที่เราพัก
แต่ขนาดจะใหญ่กว่าวิลล่าที่เราพัก (268 ตร.ม.) มีสองห้องนอน สองห้องน้ำ
ห้องนี้ออกแบบสวยทีเดียวครับ
แบบต่อมาเป็นห้องอีกแบบที่เหมาะกับคนชอบเล่นน้ำมากๆ
ห้องแบบนี้ชื่อว่า อวานี ดีลักซ์ พูล แอคเซส ห้องพักขนาด 41 ตร.ม. เตียงขนาดคิงไซส์
ห้องแบบนี้จะอยู่ที่ชั้นที่หนึ่งของอาคารที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ซึ่งจะมีเพียงแค่ 2 อาคาร
มันพิเศษตรงเราสามารถเดินประตูหน้าห้องแล้วเดินลงสระว่ายน้ำได้เลย
ในห้องจะมีโซฟาขนาดเล็กข้างเตียง ปลายเตียงจะมีทีวี โต๊ะทำงาน+โต๊ะเครื่องแป้ง
หน้าระเบียงห้องจะดี Daybed ไว้ให้เราได้นั่งเล่น
ห้องน้ำขนาดกำลังดี มีห้องอาบน้ำแยกส่วนเปียกแห้ง ห้องนอนกับห้องน้ำแยกกันด้วยกระจกกั้น แต่ก็สามารถปิดม่านบังได้ครับ
ข้อเสียของห้องนี้มีนิดเดียวคือด้วยความที่อยู่ชั้นล่างสุดเลยอาจจะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่นัก
ห้องแบบสุดท้ายที่เราจะพาไปชมตัวแปลนห้องคล้ายกับห้องตะกี้เลยครับ
เป็นห้องแบบเริ่มต้นของโรงแรมเรียกว่า อวานี ดีลักซ์ ต่างกันก็แค่ตรงระเบียงห้องเท่านั้นเองครับ
ห้องนี้จะมองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำครับ
บรรยากาศยามค่ำบริเวณส่วนต้อนรับของโรงแรม ตรงนี้จะมีห้องประชุมอยู่ด้วยเลยดูใหญ่โตเป็นพิเศษ
ช่วงที่ไปก็กำลังมีงานสัมมนาอยู่พอดีเลย
สระว่ายน้ำตอนค่ำๆ เปิดไฟในสระสวยงามเลยฮะ ภาพนี้เป็นสระแรก
ห้องอาหารอควา ยามค่ำคืน
ภาพนี้เป็นสระที่สองครับ
ด้านบนของล็อบบี้จะมีห้องอาหารชื่อ บูล บิสกิต (Blue Biscuit) เปิดบริการเวลา 5 โมงเย็นถึง ตี1
เป็นห้องอาหารสไตล์ครีโอล นั่งดื่มชิลๆ ฟังดนตรีสดที่เล่นเพลงแจ๊ส มีทั้งห้องแอร์และโซน Open Air
อีกห้องอาหารจะอยู่ติดกับ AVANICLUB เป็นห้องอาหารริมทะเลชื่อว่า เบรซซ่า (Brezza)
เป็นห้องอาหารแบบ Open Air เปิดรับลมทะเล เสิร์ฟอาหารสไตล์อิตาเลียน
บรรยากาศดีครับ แต่อาจจะมีแมลงเยอะไปหน่อยตามสไตล์ห้องอาหารแบบเปิดโล่ง
อาหารอร่อยใช้ได้เลยครับ
ด้านนอกจะเป็นบาร์กลางแจ้ง มีเครื่องดื่มให้บริการ
ในคืนวันเสาร์ตรงนี้จะมีบาร์บีคิวไนท์ ให้บริการอีกด้วยนะครับ เสียดายผมไม่ได้ไปวันเสาร์
อีกห้องอาหารที่ไม่แนะนำไม่ได้คือ สตาส์ (Staa’s)
เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม เปิดบริการแบบ All Day Dining (6 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม)
ตอนเช้าที่นี่จะเป็นห้องอาหารที่เราต้องมาทานอาหารเช้ากันทุกวัน
ตอนมื้อเที่ยงและเย็นจะเปลี่ยนเป็นห้องอาหารไทยและอาหารตะวันตก
อาหารที่สตาส์จานนี้เด็ดมาก เป็น Mixed Grill ไก่ หมู เนื้อแกะและเนื้อวัว กับเครื่องเคียง
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 700 กว่าบาท อร่อยมากทีเดียวฮะ
ส้มตำ เนื้อย่างจิ้มแจ่วกับข้าวเหนียว ข้าวกะเพราเนื้อแกะ
เรามากันที่ล็อบบี้อีกครั้ง
ตรงล็อบบี้จะเป็นที่ตั้งของ AVANISPA
เรามีนัดไปทำสปากันครับ สปาของที่นี่ตัวขึ้นชื่อจะเป็นทรีตเมนท์ อวานี ซิกเนเจอร์ ทัช
เป็นการนวดด้วยน้ำมัน แต่พิเศษคือก่อนที่จะนวดจะมีการให้เรากรอกแบบสอบถามเพื่อเป็นข้อมูล
เช่น เรามีไลฟ์สไตล์ยังไง อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน อารมณ์ช่วงนี้เป็นยังไง อะไรประมาณนี้
เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะให้คะแนนเพื่อประเมินว่าควรจะเลือกการนวดแบบไหนให้ได้ประโยชน์กับเรามากที่สุด
โดยเราก็สามารถเลือกเน้นจุดที่ต้องการให้นวดและน้ำหนักในการนวดได้เหมือนปกติทั่วไปครับ
ชอปขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการสปา เสริมความงาม
เมื่อสบายตัวแล้วเราจะพาไปชมอีกส่วนที่เรายังไม่ได้เห็นกันเลย
จริงๆโรงแรมนี้ติดทะเลนะครับ แต่ด้วยพื้นที่ของโรงแรมค่อนข้างใหญ่มากๆ
ใหญ่ขนาดจะไปที่ต่างๆในโรงแรมนี่เราต้องเรียกรถบักกี้มารับกันเลยล่ะ
นี่เป็นส่วนที่ติดทะเลของโรงแรมครับ จะมีเตียงอาบแดดให้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอาบแดด
แต่เสียดายที่วันนี้ไม่มีหน้าหาดให้เราได้ลงไปเล่นกัน ถ้ามาแล้วเป็นช่วงน้ำลงก็มีหน้าหาดสามารถลงไปเล่นน้ำได้ฮะ
ทางโรงแรมเลยทำกำแพงกันน้ำเซาะไว้แทน แต่เช้าๆหรือเย็นๆบรรยากาศตรงนี้ก็ใช้ได้นะครับ
ใครที่ยืมจักรยานของโรงแรมมาขี่ก็มาปั่นเล่นกันแถวๆนี้ได้เลย
สุดท้ายยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องอาหารเช้าเลยครับ
อาหารเช้าที่ห้องอาหารสตาส์เป็นแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาตินะครับ มีอาหารให้เลือกทานมากพอสมควร
ทั้งไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น อินเดีย วัตถุดิบที่เลือกใช้ดีมากครับ ไส้กรอกนี่ก็ไม่ใช่ไส้กรอกทั่วไปนะ
ที่สำคัญผมมักให้คะแนนเพิ่มสำหรับโรงแรมที่มีปาท่องโก๋เสิร์ฟในไลน์อาหารเช้า
เลิฟๆเลยล่ะแบบนี้ ฮ่าๆ
นอกจากโรงแรมใหญ่ มีห้องอาหารหลายห้องอาหารแล้วยังมีมุมขนมหวานและอาหารว่างให้บริการอีกตะหาก
สำหรับคนชอบทานขนมหวาน ขนมอบ มุมนี้ห้ามพลาดครับ โดยเค้าจะมี 2 มุมให้เลือกใช้บริการ
คือ แพนทรี (Pantry) ให้บริการอาหารว่าง ขนมเค้ก ขนมอบ ใหม่สดทุกวัน
และ เทอเรส บาร์ (Terrace Bar) ที่ให้บริการอาหารสำเร็จรูปแบบทานด่วนเช่นพวก ครัวซองแฮมชีส แซนวิชทูน่าอะไรแบบนี้
ทั้งสองร้านอยู่ด้วยกันครับ ตั้งอยู่หน้าห้องอาหารสตาส์ เปิดบริการ 6 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่มครึ่ง
บทสรุป ..
อวานี หัวหินเป็นโรงแรมที่เหมาะมากๆสำหรับการมาพักผ่อนแบบครอบครัว
สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่ในโรงแรมเน้นการพักผ่อน นอนเล่นชิลๆในโรงแรม เล่นน้ำทั้งวัน ทานอาหารได้ในโรงแรม
ผมมาพักที่นี่ 3 วัน 2 คืนแทบไม่ได้ออกไปไหนเลยครับ แค่ใช้บริการส่วนต่างๆของโรงแรมก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโรงแรมก็มีบริการรถรับ-ส่งระหว่างโรงแรมและตัวหัวหิน และชะอำอีกด้วย
มีอีกจุดที่ผมไม่ได้แนะนำคือ AVANIFIT ฟิตเนสขนาดใหญ่มีเครื่องออกกำลังกายจำนวนมาก
พอดีมีคนใช้บริการเกือบจะตลอดเวลาเราเลยไม่อยากไปรบกวนผู้ใช้บริการครับ
ห้องพักของที่นี่มีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด และหลายราคา
แต่แน่นอนว่าทุกๆห้องสามารถใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมได้
ห้องพักแบบที่เราพักอาจจะพิเศษหน่อยตรงมีลากูนส่วนตัว
ถ้าลูกค้าในส่วนวิลล่าไม่เต็มสระยักษ์ก็แทบจะเป็นของเราคู่เดียว เพราะลูกค้าในส่วนอื่นๆจะมาใช้บริการไม่ได้
แถมมีคลับเลาจน์ให้ใช้บริการอีก คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยฮะ ยิ่งสำหรับคนชอบดื่มแนะนำเลยครับ
สำหรับคนที่สนใจดูรายละเอียดของโรงแรมเพิ่มเติมสามารถเข้าไปชมได้ที่
https://www.facebook.com/AVANIHuaHin/
หรือ
https://www.minorhotels.com/en/avani/hua-hin
ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ ทริปหน้าเราจะพาไปกินหรือเที่ยวที่ไหน รอติดตามกันนะครับ