ผมมีอีกหนึ่งรีสอร์ทมาแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักกันครับ รีสอร์ทแห่งนี้ผมทราบข่าวถึงงานก่อสร้างมาเป็นระยะๆแล้ว และเฝ้าติดตามมาตลอดว่าเมื่อไหร่รีสอร์ทแห่งนี้จะเสร็จซะทีตั้งใจไว้ว่าถ้ามีโอกาสจะไปพักและทำรีวิวมาให้ได้ชมกันฮะ รีสอร์ทที่ว่านี้คือ X2 River Kwai รีสอร์ทน้องใหม่ในเครือ X2 Resort ต่อจาก X2 กุยบุรี, X2 สมุย, และ X2 เชียงใหม่ ทำไมผมถึงติดตามที่นี่หรอครับ เพราะว่าผมเคยรีวิว X2 กุยบุรีเอาไว้แล้ว เคยบอกว่าที่นั่นคือแรงบันดาลใจให้ผมเป็นบล็อกเกอร์สายโรงแรมมาจนถึงทุกวันนี้ แน่นอนว่าผมหลงรักงานดีไซน์ของรีสอร์ทสวยๆและค่อนข้างมั่นใจว่า X2 River Kwai จะไม่ทำให้ผมผิดหวังเช่นกัน โชคค่อนข้างเข้าข้างฮะเมื่อกลางเดือนที่แล้วมีสายโทรศัพท์จาก Project Manager ของ X2 โทรมาแจ้งข่าวว่า X2 River Kwai พร้อมให้บริการแล้วและเชิญให้ผมไปพัก แน่นอนว่าผมตอบตกลงและเคลียร์คิวลงตัวเมื่อช่วงหลังวันแม่ที่ผ่านมานี่เอง ตามผมไปชมกันดีกว่าว่า X2 River Kwai มีอะไรน่าสนใจพอที่คุณจะดึงดูดให้คุณไปพักได้ ตามมาครับ เรื่องของการเดินทาง … X2 River Kwai จะอยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองกาญจนบุรีไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตรฮะ โดยเมื่อเราขับรถมาถึงแยกหอนาฬิกาแล้วให้เลี้ยวขวาแล้วขับตามทางบังคับมาเรื่อยๆจนเจอกับสะพานสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรให้ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ไปแล้วจะมีป้ายบอกทางไปตลอดครับขับรถไปซัก 6 กิโลเมตรจะมีทางเลี้ยวเข้าบ้านหนองหญ้า เลี้ยวซ้ายเข้าไปแล้วขับรถไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตรก็จะถึงตัวรีสอร์ทครับ แน่นอนว่ากาญจนบุรีขึ้นชื่อเรื่องความร้อน ผมเองสัมผัสด้วยตัวเองมาแล้วหลายครั้งสมัยมาเขาชนไก่ เมื่อเปิดประตูรถลงมาแน่นอนความร้อนแผ่ซ่านมากทีเดียวฮะคงเนื่องจากเพราะยังเป็นช่วงบ่ายๆอยู่ด้วย ล็อบบี้มีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็ดูโดดเด่นด้วยดีไซน์จริงๆ ที่นี้มาดูแนวคิดกันบ้างดีกว่าครับ เอาแบบตามความเข้าใจของผมพอประมาณนะครับ ถ้าไม่ถูกต้องเป๊ะๆก็ขออภัยด้วย จากล็อบบี้ทำให้เราได้คิดถึงอดีต ที่นั่งไม้ตามชานชาลารถไฟอารมณ์เก่าๆของกาญจนบุรีที่เป็นอดีตและกำลังเปลี่ยนผ่านเวลามายังยุคปัจจุบัน เมื่อผ่านเข้าล็อบบี้ไปเราก็จะเห็นอีกช่วงเวลานึงที่เป็นปัจจุบันมากขึ้นฮะ ตรงล็อบบี้มีอีกมุมนึงที่เห็นแล้วก็แอบว๊าวเบาๆในใจ เครื่องดื่มต้อนรับถูกนำมาเสิร์ฟ เครื่องดื่มกับวิวตรงหน้าทำให้ความร้อนหายไปเยอะเลยทีเดียว .. เข้าไปชมห้องพักกันก่อนดีกว่า .. X2 River Kwai ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อยในจุดที่ผมว่าสวยสุดๆเลยทีเดียว พื้นที่มีขนาดไม่ใหญ่มากฮะความกว้างประมาณ 6 ไร่ มีห้องพักเพียงแค่ 8 ห้องเท่านั้นซึ่งเดี๋ยวจะพาไปชมกันครับ เรื่องของการออกแบบเนื่องจากรีสอร์ทตั้งอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีเมืองประวัติศาสตร์ยุคสงครามโลก แม่น้ำ สะพานข้ามแม่น้ำแคว รถไฟสายมรณะจึงมีส่วนอย่างมากในแนวคิดการออกแบบทำให้เกิดคอนเซ็ปต์ Industrial Chic กลิ่นไอของอุตสาหกรรมนำมาสร้างรีสอร์ทโดยการสร้างห้องพักให้เป็นเหมือนตู้คอนเทนเนอร์ครับ ไปดูห้องพักด้านบนกันก่อนดีกว่า ห้องพักแบบแรกที่จะให้ชมเป็นห้องพักแบบ LuXe Cabin ฮะ เป็นห้องพักชั้นบนมีอยู่ทั้งหมด 4 ห้องแต่ห้องริมสุดจะพิเศษหน่อยเรียกว่าห้อง LuXe Cabin Suite เป็นห้องที่มีห้องนั่งเล่นเพิ่มมาอีกหนึ่งส่วน ตัวห้องก็จะหันหน้าไปทางฝั่งโค้งน้ำเพียงห้องเดียวราคาก็จะแพงกว่านิดนึงครับ ห้อง LuXe Cabin มีขนาด 65 ตร.ม. กว้างขวางพอสมควรครับ อย่างที่บอกว่าด้านนอกจะทำเหมือนเป็นตู้คอนเทนเนอร์ ภายในกรุด้วยไม้ มีเตียงขนาด 7 ฟุตตั้งอยู่กลางห้องปลายเตียงมีโซฟาเบดให้นั่งเล่นชมวิวได้ด้วยฮะ ด้านนอกระเบียงก็จะมี Daybed ไว้ให้นั่งพักผ่อนในช่วงเช้าๆหรือเย็นๆหรือจะออกมานอนนับดาวช่วงกลางคืนก็ไม่ผิดครับ(ตามรูปข้างบน) เรื่องของพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างลงตัวครับ เช่นหัวเตียงก็เป็นโต๊ะทำงาน ชั้นแขวนเสื้อผ้าก็เอาเหล็กท่อมาต่อกันเก๋ๆ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็พอมีให้เห็นเช่นห้องที่ผมพักจะมีจักรเย็บผ้าเก่าๆซึ่งเคยใช้ได้เมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ไฟฉายที่มีถ่านเป็นยี่ห้อบ้านๆคล้ายๆถ่านตรากบประมาณนั้น ผนังห้องบางจุดยังถูกเจาะออกเพื่อเปิดให้ระบายลมได้ แถมถ้าเปิดบานประตูระเบียงทิ้งไว้แอร์ก็จะหยุดการทำงานภายใน 5 นาทีเรียกได้ว่าเป็นรีสอร์ทที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ห้องน้ำอยู่หลังเตียงนอนไปครับ มีอ่างล้างหน้าและกระจกอยู่ตรงกลางด้านหลังเป็น bathtub และมีห้องสุขาและห้องอาบน้ำแยกฝั่งกันครับ ลงมาชมห้องพักด้านล้างกันบ้างครับ ห้องพักด้านล่างก็มีอีก 4 ห้อง 3 ห้องเป็นห้องที่เรียกว่า PoolXide Cabin ขนาดห้อง 63 ตร.ม. ส่วนอีกห้องที่อยู่ริมสุดเป็นห้องแบบ PoolXide Cabin Suite กว้าง 107 ตร.ม. มีห้องนั่งเล่นให้เพิ่มอีกส่วนนึงครับ ห้อง PoolXide Cabin จะมีแปลนที่แตกต่างจากห้อง LuXe Cabin เลยครับ ห้องแบบนี้จะดูกว้างกว่าแต่ห้องด้านบนจะดูมีมิติที่ลึกกว่า ที่นอนขนาด 7 ฟุตเช่นกันที่ต่างคือห้องแบบนี้จะสามารถเดินลงสระว่ายน้ำจากหน้าห้องพักได้เลยครับ แถมห้องน้ำก็ดูใหญ่กว่าอีกด้วย ทีนี้ไปดูอีกส่วนที่มีความสำคัญของรีสอร์ทกันบ้างนั่นก็คือห้องอาหารครับ The Bridge Bar & Bistro เป็นห้องอาหารเดียวของรีสอร์ทฮะ ให้บริการอาหารแบบ All Day Dining ตัวอาคารเป็นห้องปรับอากาศ ออกแบบให้ดูโปร่งสบายมองเห็นวิวแม่น้ำแควน้อยได้เต็มตา ด้านบนทำเป็นเหมือนชั้นลอยจัดเป็นห้องสมุดเล็กๆ มีมุมให้นั่งอ่านหนังสือสบายๆ นั่งอ่านหนังสือไปก็สั่งเครื่องดื่มมาจิบชิลๆไปด้วยสบายยย สองแก้วนี้เป็น Mocktail แนะนำของ X2 River Kwai ผมจดชื่อไว้แต่จำไม่ได้เดี๋ยวมาบอกอีกทีนะครับ ^^’ มาชมภาพตอนกลางคืนกันบ้างดีกว่าฮะ เกือบไม่ได้ถ่ายภาพแล้วเพราะฝนเจ้ากรรมดันตกลงมาช่วงเย็น โชคยังดีที่ช่วงทไวไลท์ฝนหยุดให้พอดี ก็เรียกได้ว่ารีบวิ่งถ่ายกันเลยทีเดียว ตอนค่ำแสงไฟของรีสอร์ทเปิดสวยงามดูโดดเด่นมากเลยครับ แถวนี้มีแต่บ้านของชาวบ้านมีรีสอร์ทอีกแห่งอยู่ไกลออกไปหน่อยแต่ก็เป็นรีสอร์ทคนละแนวกันเลย ล็อบบี้กลางคืนยิ่งสวย .. ด้านนอกของ The Bridge Bar & Bistro ห้องสมุด ที่นั่งด้านนอก ส่วนของห้องพัก มุมนี้จะเห็นว่ารีสอร์ทสวยมากๆครับ ตัดภาพมาที่ช่วงเช้ากันบ้างครับ ถามกับทางพนักงานเอาไว้แล้วว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางด้านไหน พนักงานบอกว่าขึ้นทางปลายโค้งน้ำ คิดว่าพูดแบบนี้แล้วผมจะพลาดหรอฮะ แน่นอนว่าตื่นมารอแสงยามเช้าเผื่อจะได้ช็อตสวยๆมาเป็นภาพหน้าปกแล้วก็สมหวังฮะ ช่วงจังหวะที่แสงจากขอบฟ้าขึ้นมาให้ได้เห็นผมก็รัวชัตเตอร์ไม่ยั้งฮะ แนะนำว่าใครที่ไปพักที่นี่ควรตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นนะครับ คุณอาจจะโชคดีได้เห็นแสงสวยๆยามเช้า แถมได้สูดอากาศบริสุทธิ์และอากาศเย็นสบายต่างจากช่วงกลางวันของเมืองกาญจน์อย่างสิ้นเชิง สระว่ายน้ำแบบ Infinity Riverfront Pool ทำให้เรามองเห็นสระว่ายน้ำกับแม่น้ำแควน้อยกลมกลืนไปด้วยกัน ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสแสงแดดอ่อนๆยามเช้า พร้อมสูดอากาศสดชื่นแบบนี้แน่ๆฮะ บรรยากาศริมน้ำแควน้อยนี่ดีจริงๆ ผมไม่มั่นใจว่าน้ำในแม่น้ำจะเต็มแบบนี้ตลอดปีมั๊ย แต่แน่นอนว่ามาที่นี่มีเตียงผ้าใบให้นอนเล่นบนชายหาดแน่นอน บรรยากาศเงียบสงบ ผืนน้ำที่ราบเรียบ ทั้งวันแทบจะไม่มีเรือใดๆวิ่งผ่านนอกจากเรือหาปลาของชาวบ้านที่นานๆจะมีผ่านซักลำ นี่มันคือบรรยากาศของบ้านในฝันของใครหลายๆคน ผมเชื่อแบบนั้น พูดถึงแนวคิดด้านการออกแบบกันอีกหน่อยครับ Industrial Chic ผมไม่ใช่สถาปนิกหรือนักออกแบบ แต่พอรู้คอนเซ็ปต์ก็ค่อนข้างทึ่งครับ แค่การนำวัสดุเช่นเหล็ก ไม้ และปูนมาผสมผสานกัน ห้องพักด้านบนทำเป็นตู้คอนเทนเนอร์รอการเคลื่อนย้าย ด้านล่างมีห้องน้ำที่ทำลักษณะเป็นกล่องไม้ที่เตรียมเอาขึ้นคอนเทนเนอร์ แค่นี้ก็รู้สึก เออ… คิดได้เนอะ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมก็มีส่วนในการออกแบบครับ อย่างกระเบื้องในสระว่ายน้ำก็เป็นกระเบื้องที่สั่งตรงมาจากเมืองจีน ลายกระเบื้องก็เป็นแบบจีน เนื่องจากคนจีนสมัยก่อนโล้สำเภาข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่เมืองไทย คนจีนที่มาอยู่เมืองกาญจน์ก็มีไม่ใช่น้อย ก็เหมือนคนจีนได้ขึ้นเรือมาพึ่งผืนแผ่นดินไทยในการทำมาหากินจนถึงทุกวันนี้ครับ ที่อาบน้ำเวลาขึ้นมาจากสระก็ออกแบบเป็นท่อน้ำเก๋ๆ เช้าๆบรรยากาศดีครับ ได้ลงมานั่งคิดอะไรเพลินๆริมน้ำก็ดีเหมือนกัน อาหารเช้าที่นี่จะเสิร์ฟแบบ all-day a la carte breakfast ซึ่งก็คือคุณจะมาทานตอนไหนก็ได้ก่อนที่คุณจะเช็คเอ้าท์ เก๋เนอะ เพียงแต่ปกติรีสอร์ทในเครือของ X2 จะมีเสิร์ฟ Sparkling Wine ด้วยและที่นี่ก็เสิร์ฟเฉพาะช่วงเวลา 7 โมงเช้าถึง 10 โมงครึ่งเท่านั้นนะครับ ส่วนของอาหารเช้าอย่างที่บอกว่าเป็นแบบ a la carte คือสั่งเป็นจาน โดยจะมีอาหารให้เลือกทานอยู่ประมาณ 5 ชนิดคือ The American – อาหารเช้าแบบอเมริกัน พร้อมกาแฟหรือน้ำส้มคั้น และขนมปังมีให้เลือกหลายชนิด เลือกทานได้อย่างเดียวนะครับ แต่ก็จะมีอาหารเพิ่มเติมให้อีกนิดหน่อยเช่นโยเกิร์ตและคอนเฟลกประมาณนั้น ทานเสร็จก็ยังพอมีเวลาไปปั่นจักรยานที่ทางรีสอร์ทมีไว้ให้บริการอีกสบายๆถือว่าปั่นลดพุงกันก็แล้วกันฮะ ได้ดูวิวสวยๆริมแม่น้ำแควน้อย แถมได้เห็นวิถีชีวิตคนต่างจังหวัดแถวๆนี้ด้วย ออกกำลังกายเสร็จก็ยังกลับมานั่งๆนอนๆชิลต่ออีกพักก่อนจะเก็บกระเป๋ากลับบ้านด้วยฮะ บทสรุป .. X2 River Kwai รีสอร์ทน้องใหม่ในเครือ X2 Resort เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมานี้เองครับ ถือว่าเป็นรีสอร์ทใหม่สดเลยก็ว่าได้ ระยะเวลาการขับรถไปผมว่ามันก็ไม่ไกลมากครับไปเมืองกาญจน์ก็คงพอๆกับไปเที่ยวสวนผึ้งคือประมาณ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ จุดเด่นของที่นี่คือเป็นดีไซน์โฮเทลที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อยในจุดที่สวยสุดๆเพราะอยู่ระหว่างโค้งน้ำพอดี เงียบสงบ และยังคงอยู่ทามกลางธรรมชาติครับ อาหารเช้าที่พร้อมเสิร์ฟเมื่อไหร่ก็ได้ที่เราต้องการ เราสามารถเช็คเอ้าท์เลทได้ในกรณีที่ห้องพักว่าง (ถ้าศุกร์เสาร์อาทิตย์คงเลทยาก) เครื่องอำนวยความสะดวกให้ห้องมีครบครัน ทีวีLED เครื่องเสียงไร้สายของ Bose อินเตอร์เน็ตไร้สายฟรี ส่วนข้อด้อยที่เห็นตอนนี้คือความที่เป็นโรงแรมใหม่ อาจจะยังมีหลายๆอย่างที่ไม่พร้อมเช่นช่วงที่ผมไปอาหารเย็นมีให้บริการแต่ก็ยังมีเมนูไม่มากเท่าไหร่ น่าจะยังไม่เต็มระบบ เรื่องของแมลงอันนี้เลี่ยงไม่ได้จริงๆกับรีสอร์ทที่อยู่ริมแม่น้ำและยังคงความเป็นธรรมชาติ ตัวรีสอร์ทที่ไกลจากตัวเมืองกาญจน์แต่ก็ยังดีที่มีร้านค้าของชาวบ้านให้ซื้อน้ำซื้อขนม หรือถ้าจะซื้ออาหารง่ายๆก็น่าจะได้อยู่ครับ อาหารเช้าต้องยอมรับว่าไม่ได้อลังการเนื่องจากรีสอร์ทในเครือนี้เค้าเสิร์ฟแบบ a la carte อยู่แล้วเลยอาจจะน้อยไปสำหรับคนที่ชอบทานอาหารเช้าหนักๆ อ้อ .. สำหรับห้องแบบ LuXe Cabin ทั้ง 4 ห้องด้านบนทางรีสอร์ทจะไม่ให้แขกที่มีเด็กเข้าพักนะครับ เนื่องจากบางจุดค่อนข้างอันตรายสำหรับเด็กเล็กครับ X2 River Kwai ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่น่าสนใจและน่าจับตามองครับ ห้องพักราคาหลักพันกลางๆซึ่งถ้าไปเที่ยวพัทยาหรือหัวหินผมว่าก็ราคาไม่ถูกไปกว่านี้แล้ว สำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ แม่น้ำ ป่าเขามากกว่าทะเล ที่นี่ผมว่าน่าสนใจเก็บไว้เป็นตัวเลือกครับ ขอบคุณสำหรับทุกการรับชม เม้นท์ สำหรับรีวิวในตอนหน้า ผมจะพาไปเที่ยวที่ไหนติดตามชมกันนะครับ ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ |